วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

4 เรื่อง ครบรส เจาะทางฟุตบอล กับ ตรวจสอบบอล.net

เจ๋งจริง!เมสซี่ผงาดยอดแข้ง‘การ์เดี้ยน‘2013


 


 


 : ลีโอเนล เมสซี่ ซุปตาร์ของ 

การ์เดี้ยน ออกมาจัด  100 จัดลำดับผู้เล่นดีเลิศประจำปี 2013 โดย ลีโอเนล เมสซี่ ได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมเหนือคู่แข่งสำคัญอย่าง คริสติอาโน่ โรนัลโด้, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ฟรองค์ ริเบรี่, แกเร็ธ เบล, เนย์มาร์, หลุยส์ ซัวเรซ และ เซร์คิโอ อาเกวโร่บาร์เซโลน่า ยอดทีมจาก สเปน มีนักเตะพาเหรดติดมามากที่สุดถึง 11 ราย (เมสซี่, อิเนียสต้า, เนย์มาร์, ชาบี้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เชส ฟาเบรกาส, เคราร์ด ปีเก้, ดานี่ อัลเวส, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, บิตอร์ บัลเดส และ อเล็กซิส ซานเชส)ขณะที่ สรุปท็อป10ยอดแข้ง "เดอะ การ์เดี้ยน" 1.ลีโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า) 2.คริสติอาโน่ โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด) 3.ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง) 4.ฟรองค์ ริเบรี่ (บาเยิร์น) 5.อันเดรส อิเนียสต้า (บาร์เซโลน่า) 6.เนย์มาร์ (บาร์เซโลน่า) 8.ชาบี้ (บาร์เซโลน่า) 9.หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล) 10.เซร์คิโอ อเกวโร่ (แมนฯ ซิตี้)

 

อาสเชื่อตราหมีพร้อมทั้งปล่อยคอสต้าจบซีซั่น



 


 

ฟุตบอล : ยักษ์ยุโรปตาลุก!! อาส อ้าง "ตราหมี" เล็งชี้ขาดสนธิสัญญาใหม่ให้ คอสต้า หลังเจ้าตัวเนื้อหอม ยักษ์ใหญ่รุมทึ้งอื้อ แต่พร้อมทั้งตัดอกตัดใจขายทิ้งเช่นกันหากแข้งขืนไม่ขออยู่กับทีมต่อไป

 

อาส สื่อชื่อดังในประเทศสเปนเชื่อมั่นว่า แอตเลติโก มาดริด ทีมแกร่งใน ลา ลีกา พร้อมจะปล่อยตัว ดีเอโก้ คอสต้า กองหน้าตัวเก่งออกจากทีมหลังจบฤดูกาลนี้ หากนักเตะแสดงความต้องการว่าอยากจะย้ายทีมออกไป

ดีเอโก้ คอสต้า เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมและระเบิดตาข่ายไปแล้วด้วยผลบอลถึง 19 ประตูเท่ากับ หลุยส์ ซัวเรซ ของ ลิเวอร์พูลขับเคี่ยวช่วงชิงรางวัล รองท้าทองทองคำ" หรือดาวซัลโวลีกยุโรปกันอยู่ในเวลานี้ ส่งผลให้เจ้าตัวได้รับความอินังจากหลายสโมสรอาทิ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ อาร์เซน่อล แม้ "ตราหมี" จะขืนปฏิเสธปล่อยหัวหอกทีมชาติสเปนเชื้อสายบราซิลออกจากทีมในช่วงตลาดเดือน ม.ค.ก็จริง แต่ด้วยผลงานสุดร้อนแรงของเจ้าตัว สโมสรจึงวางแผนที่จะปรับสัญญาใหม่ให้ในช่วงเดือน เม.ย.ปีหน้า แต่หากนักเตะยืนกรานจะย้ายทีมออกไป แอตเลติโก ก็พร้อมทั้งจะขายออกไปด้วยมูลค่าเลิศเช่นกัน ทั้งนี้ เคยมีรายงานว่า ดีเอโก้ คอสต้า มีค่าฉีกสนธิสัญญาอยู่ที่ 38 ล้านยูโร (ราว 1,520 ล้านบาท)


 

 


บุตรแห่งโอดิน!ไก่เล็งปรันเดลลี่คุมซีซั่นหน้า



 


บุตรแห่งโอดิน!ไก่เล็งปรันเดลลี่คุมซีซั่นหน้า

 
ฟุตบอล : ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ตกเป็นข่าวว่าพละกำลังมีแผนที่จะทาบทาม เซซาเร่ ปรันเดลลี่ นายใหญ่ทีมชาติ อิตาลี เข้ามารับงานคุมทีมในฤดูกาล 2014-15 พร้อมทั้งหวังที่จะคว้าตัว อันเดรีย ปิร์โล่ ห้องเครื่องคนดังของ ยูเวนตุส ด้วยเช่นกันแม้ว่า สเปอร์ส จะเพิ่งมอบสัญญา 18 เดือนให้กับ ทิม เชอร์วู้ด เพื่อเข้ามาคุมทีมถาวระ ทว่า จานลูก้า ดิ มาร์ซิโอ นักข่าวของ สกาย อิตาเลีย เชื่อว่าเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้นกูรูด้านการซื้อขายของ อิตาลี โพสต์ในเว็บไซต์ส่วนตัวของเขาในวันคริสต์มาสว่า แดเนี่ยล เลวี่ และ ฟรังโก้ บัลดินี่ 2 ผู้บริหารของทีม "ไก่เดือยทอง" มีแผนการระยะยาวในถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน โดยสนใจที่จะจ้าง เซซาเร่ ปรันเดลลี่กุนซือทีมชาติ อิตาลี คนปัจจุบันเข้ามาคุมทีมในฤดูกาลหน้า ดิ มาร์ซิโอ เชื่อว่า ปรันเดลลี่ ได้รับข้อเสนอในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และกำลังไตร่ตรองว่าจะทำอะไรต่อไปหลังจบฟุตบอลโลกที่ บราซิล ขณะที่ อันเดรีย ปิร์โล่ อาจจะตาม ปรันเดลลี่ มายัง สเปอร์ส หลังสัญญาฉบับสมัยปัจจุบันจะหมดสนธิสัญญากับ ยูเวนตุส หลังจบฤดูกาลนี้

 

หัวขิงรับผิดหวังหากหงส์พลาดท็อปโฟร์



 


หัวขิงรับผิดหวังหากหงส์พลาดท็อปโฟร์

ฟุตบอล : สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมคนเก่ง ลิเวอร์พูล ออกมา ศรัทธาว่ามันคงเป็นอะไรที่น่าผิดหวัง หากต้นขึ้นอยู่กับของเขาไม่เก่งจบฤดูกาลภายในพื้นที่ท็อปโฟร์ได้สำเร็จ

 รั้งจ่าฝูงของตารางพรีเมียร์ลีกในวันคริสต์มาส ซึ่งพวกเขาเป็นทีมสุดท้ายที่รั้งจ่าฝูงในช่วงเวลาดังกล่าว แต่พลาดแชมป์เมื่อปี 2008อย่างไรก็ตาม เจอร์ราร์ด ยังไม่คิดไปไกลถึงขั้นนั้น โดยหวังว่า ลิเวอร์พูล จะยึดพิ้นที่ท็อปโฟร์ได้หลังฤดูกาลนี้สิ้นสุดลง“ผมคิดว่าหากเราจบฤดูกาลโดยได้อันดับอยู่นอกเหนือพื้นที่ท็อปโฟร์ มันคงเป็นซีซั่นที่น่าผิดหมายมั่นมาก”หัวขิง กล่าว “จากความสามารถในทีมของเรา และจุดเริ่มต้นที่เราเดินทางมา เรามีเวลาดีมากที่จะจบฤดูกาลด้วยชั้นท็อปโฟร์ มันคงน่าผิดหวังมากหากไม่เป็นเช่นนั้น”

 

เรียบเรียงโดย : วิเคราะห์บอล.net

วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556

บาสาดโทน!สิงห์หั่นสเตอัวฯ 1:0 ซิวเเชมป์

บาซัดโทน!สิงห์เฉือนสเตอัวฯ1:0ซิวเเชมป์กลุ่มE 
บาซัดโทน!สิงห์เฉือนสเตอัวฯ1:0ซิวเเชมป์กลุ่มE

 ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 

ฤดูกาล2013/14

รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E นัดสุดท้าย

วันพุธที่ 11 ธันวาคม 2556

เชลซี 1 : 0 สเตอัว บูคาเรสต์ 

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

ผู้ตัดสิน : จานลูก้า ร็อดคี่

 

เริ่มทำเกมมาเเค่ 3 นาที "สิงห์บูลส์"เชลซี ได้ลุ้นทำประตูก่อน เมื่อ วิลเลียนเปิดเตะมุมฝั่งขวาดาวิด ลุยซ์สอดมายิงบอลหลุดเสาเเรกออกไป

นาทีที่ 10 เชลซี ได้ประตูขึ้นนำ สเตอัว บูคาเรสต์ ก่อน 1:0 วิลเลียน เปิดลูกเตะมุมฝั่ง ขวา ให้กับ ออสก้า โหม่งบอลไปที่เสาสองดาเนี่ยล จอร์จิเยฟสกี้แยกบอลไปติดขาเดมบ้า บาเข้าไปตุงตาข่าย

นาทีที่ 26 เอเดน ฮาซาร์ดเปิดบอลจากด้านฝั่งซ้าย ให้กับบรานิสลาฟ อิวาโนวิชได้โหม่งจ่อๆ ไปตรงซิเปรียน ตาตาราซานูกำบัดทิ้งไป

นาทีที่ 35 พานเตลิส คาเปตานอสได้ลองยิงไกลด้วยขวา เเต่จังหวะสุดท้ายบอลพ้นออกนอกกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 44 เเนวรับสเตอัว บูคาเรสต์ แยกบอลมาเข้าทาง แฟร้งค์ แลมพาร์ดได้ลองยิงไกลด้วยขวา เเต่บอลพ้นออกนอกกรอบ

นาทีที่ 53 วิลเลียน เปิดบอลจากด้านริมเส้นฝั่งขวาให้ เดมบ้า บาวิ่งมายิงจ่อๆ บอลโด่งข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 69 อังเดร ชูร์เล่หลุดขึ้นไปยิงด้านฝั่งซ้าย ไปถูกซิเปรียน ตาตาราซานูปัดมาเข้าทาง เอเดน ฮาซาร์ดได้โหม่งจ่อๆ บอลโด่งผ่านคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่เชี่ยวชาญทำประตูได้ จบเกม เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ สเตอัว บูคาเรสต์ 1:0 พร้อมกับผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล2013/14 ในฐานะเเชมป์กลุ่ม E

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
เชลซี : ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : มาร์ค ชวาร์เซอร์
กองหลัง : บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,ดาวิด ลุยซ์,จอห์น เทอร์รี่,แอชลี่ย์ โคล
กองกลาง : แฟร้งค์ แลมพาร์ด,จอห์นโอบี มิเกล(รามิเรส น. 74) - เอเดน ฮาซาร์ด,ออสการ์( อังเดร ชูร์เล่ น.67),วิลเลียน(เควิน เดอ บรอยน์ น. 79)
กองหน้า : เดมบ้า บา


สเตอัว บูคาเรสต์ : ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : ซิเปรียน ตาตาราซานู
กองหลัง : ดาเนี่ยล จอร์จิเยฟสกี้,ลูคัสซ์ ซูกาล่า,ฟลอริน การ์ดอส,ยาสมิน ลาตอฟเลวิซี่
กองกลาง : อเล็กซานดรู ชิปชิยู,มิไฮ ปินติลี่ - พอล ปาร์วูเลสคู,นิโคเล สตานซิอู,กาเบียล ยานคู
กองหน้า : พานเตลิส คาเปตานอส

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

กุนนาบาสเบิ้ล!เรือสุดใจทมิฬถล่มไก่ 6:0

กุนควงนาบาสเบิ้ล!เรือสุดโหดถล่มไก่6:0ขึ้นที่4

 

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 

ฤดูกาล 2013-2014

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 6:0 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

ผู้ตัดสิน : ฮาเวิร์ด เว็บ


ครึ่งแรก

เปิดฉากครึ่งแรกมาแค่ 13 วินาที แมนฯซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำ 1:0 อย่างรวดเร็ว จากลูกที่ สเปอร์ส เขี่ยบอลกลางสนาม ก่อนส่งลูกคืนหลังไปให้ ฮูโก้ โยริส แต่หวดขึ้นหน้าพลาด เซร์คิโอ อเกวโร่ ฉกชิงบอลได้ก่อนยิงด้วยขวา ฮูโก้ โยริส เซฟได้แต่โชคร้ายปัดมาเข้าทาง เฆซุส นาบาส ได้ชิพบอลจากทางขวาบอลย้ายเสียบเสาไกลเข้าไป

นาที 5 ไคล์ วอล์คเกอร์ พาบอลขึ้นมาทางด้านขวาก่อนปาดไปที่เสาสอง เอริค ลาเมล่า วนเวียนเข้ามาแปด้วยขวาย้อนมที่เสาแรก มาร์ติน เดมิเคลิส หยุดยั้งบอลจากเส้นประตูได้อย่างหวุดหวิด

อีก 2 นาทีต่อมา อัลบาโร่ เนเกรโด้ แทงทะลุช่องเข้าเขตโทษให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้ตกเข้าไปกดด้วยขวา ฮูโก้ โยริส ยังเหนียวออกมาปิดมุมเร็วเวฟไว้ได้ไม่พลาด

นาที 18 สเปอร์ได้ลูกฟรีคิกกลางประตูทำเลที่ตั้งหน้าหัวกระโหลก ลูอิส โฮลท์บี้ เขี่ยเปลี่ยนจุดให้ แยน แฟร์ต็องเก้น ได้วิงเข้ามากดด้วยขวาบอลตรงตัว คอสเทล แพนทิลิมอน รับเข้าซอง

นาที 24 แยน แฟร์ต็องเก้น กระชากบอลหนีเข้าเขตโทษทางซ้ายก่อนซัดมุมแคบด้วยซ้าย คอสเทล แพนทิลิมอน ปัดออกหลังไป

นาที 34 เจ้าบ้านมาได้ประตูหนีไปเป็น 2:0 จากลูกเปิดทางฝั่งซ้าย เซร์คิโอ อเกวโร่ ยิงด้วยขวา ฮูโก้ โยริส ปัดมาเข้าทาง อัลบาโร่ เนเกรโด้ โลดเต้นวอลเลย์บอลไปเอียง ซานโดร ทำเข้าประตูตัวเอง

นาที 41 ปาโบล ซาบาเลต้า จ่ายบอลขึ้นมาทางขวาให้ เฆซุส นาบาส ได้พาบอลไปปาดเข้าเขตโทษ เซร์คิโอ อเกวโร่ สอดเข้ามาแปด้วยซ้ายบอลไหลเสียบเสาไกลเข้าไป แมนฯซิตี้ หนีห่างไปเป็น 3:0

เวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้จบเกมครึ่งแรก แมนฯซิตี้ ยังนำ สเปอร์ 3:0

ครึ่งหลัง

ลงมาต่อครึ่งหลังแค่ 5 นาที แมนฯซิตี้ นำโด่งเป็น 4:0 จากจังหวะที่ ยาย่า ตูเร่ กระชากบอลหนีการขนาบขึ้นมาทางซ้ายก่อนปาดเข้ากลางให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ กดด้วยขวาบอลผ่านมือ ฮูโก้ โยริส เสียบตาข่าย

นาที 52 ซาเมียร์ นาสรี่ ลากบอลจี้เข้าเขตโทษทางฝั่งซ้ายก่อนหลอกว่าจะจ่ายแต่เป็นชิบบอลข้ามหัว ฮูโก้ โยริส บอลย้อยไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

อีก 3 นาที แมนฯซิตี้ สกอร์ไหลเป็น 5:0 จากลูกที่ แฟร์นานดินโญ่ กะซวกทะลุช่องเข้าให้ อัลบาโร่ เนเกรโด้ ได้ไขว้บอลหลอก ไมเคิ่ล ดอว์สัน ก่อนพลิกตัวกดด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบตาข่าย

นาที 73 เฆซุส นาบาส กระชากบอลหนีขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนขว้างบอลจากริมเส้นเข้าเขตโทษ อัลบาโร่ เนเกรโด้ เทกตัวขึ้นโขกบอลโด่งข้ามคานออกหลัง

นาทีที่ 80 มุสซ่า เดมเบเล่จ่ายบอลทะลุช่อง ให้กับเอ็มมานูเอล อาเดบายอร์ได้หลุดขึ้นไปด้านฝั่งซ้าย ก่อนจะยิงบอลไปติดขาคอสเทล แพนทิลิมอนออกไป

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 2 เเมนฯ ซิตี้ หนีห่างด้วยผลบอล 6:0 จากเจมส์ มิลเนอร์ เปิดบอลยาวให้กับ เฆซุส นาบาสหลุดขึ้นไปได้ฝั่งขวา ก่อนจะลากเข้าไปยิงผ่านมือฮูโก้ โยริสเข้าไป

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ :ระบบ 4-4-2
ผู้รักษาประตู : คอสเทล แพนทิลิมอน
กองหลัง : ปาโบล ซาบาเลต้า, มาติย่า นาสตาซิช(โจลีออน เลสค็อตต์ น.45), มาร์ติน เดมิเคลิส, กาแอล กลิชี่
กองกลาง : เฆซุส นาบาส , แฟร์นานดินโญ่, ยาย่า ตูเร่, ซาเมียร์ นาสรี่(เจมส์ มิลเนอร์ น.76)
กองหน้า : เซร์คิโอ อเกวโร่ (ฆาบี การ์เซีย น.69), อัลบาโร่ เนเกรโด้

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ :ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : ฮูโก้ โยริส
กองหลัง : ไคล์ วอล์คเกอร์, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, แยน แฟร์ต็องเก้น, ยูเนส กาบูล
กองกลาง : ซานโดร, เปาลินโญ่(มุสซ่า เดมเบเล่ น.61), เอริค ลาเมล่า , ลูอิส โฮลท์บี้(เอ็มมานูเอล อาเดบายอร์ น.45), อาร่อน เลนน่อน
กองหน้า : โรเบร์โต้ โซลดาโด้ (กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน น.61)

 

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

โด้แฮตทริค! ฝอยทองสับสวีเดน 3:2

โด้แฮตทริค!ฝอยทองเบียดสวีเดน3:2ไปบราซิล+คลิป 
โด้แฮตทริค!ฝอยทองเบียดสวีเดน3:2ไปบราซิล+คลิป

วิเคราะห์บอลโลก 2014 

รอบเพลย์ออฟนัดสอง

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2556

สวีเดน 2:3 โปรตุเกส
(ผลนัดแรก โปรตุเกส ชนะ 1:0 รวมสองนัด 4:2)

สนาม : เฟรนด์ส อารีน่า, โซลน่า

ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ (อังกฤษ)



นาที 14 โปรตุเกส ได้ลุ้นจากลูกนิ่งของ เจา มูตินโญ่ เปิดไปหน้าประตูให้ บรูโน่ อัลเวส ขึ้นโหม่งไปชิดเชพของ อันเดรียส อิซัคส์สัน ปัดบอลออกหลังไป

นาที 32 ทีมเยือนมีลุ้นจากทางเตะมุมด้านขวาโยนมาให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โหม่งแรงโด่งออกหลังเสีย

ต่อมา 3 นาที คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ลูกบอลด้านขวาเลี้ยงตัดเข้ามาหน้ากรอบเขตโทษ ตัดสินใจยิงไกลด้วยซ้ายไม่ผ่านมือของ อันเดรียส อิซัคส์สัน รับเอาไว้ได้

นาที 38 "ฝอยทอง" อาศัยจังหวะโต้กลับเร็วลูกบอลไปถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สุดเส้นหลังด้านขวาโยนมาหน้าประตู ฮูโก้ อัลเมย์ด้า ขึ้นโหม่งเข้าข้างตาข่ายไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 42 สวีเดน มีโอกาสบ้าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ไหลลูกบอลให้ คิม คัลล์สตรอม ส่องไกลทว่าไม่ผ่านมือ รุย ปาทริซิโอ ล้มตัวคว้าลูกบอลเอาไว้

มาครึ่งหลังนาที 48 เจ้าบ้านน่าได้ประตูขึ้นนำ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช จ่ายลูกบอลให้ เซบาสเตียน ลาร์สสัน แปจ่อๆ หน้าประตูไปติดเชฟ รุย ปาทริซิโอ เสีย

จากนั้น 2 นาทีกลายเป็น โปรตุเกส ที่มาได้ประตูออกนำจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดเข้าเขตโทษกดด้วยซ้ายผ่าน อันเดรียส อิซัคส์สัน เข้าไปตุงตาข่าย 1:0

นาที 68 "ไวกิ้ง" ตามตีเสมอจนได้ในทางเตะมุมโยนมาให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ขึ้นโหม่งเข้าไปเป็น 1:1

นาที 72 สวีเดน พลิกขึ้นนำ 2:1 เมื่อมาได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษและ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช รับหน้าที่กดเต็มข้อผ่านฉากพุ่งเข้าประตูไปอย่างแรง

นาที 77 โปรตุเกส ตามตีเสมอบ้างจังหวะโต้กลับเร็วลูกบอลถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดไปทางซ้ายก่อนยิงผ่าน อันเดรียส อิซัคส์สัน เสียบเสาไกล 2:2

ถัดมา 2 นาที "ฝอยทอง" กลับมาขึ้นนำอีกครั้งเมื่อลูกบอลไปถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หน้าประตูสัมผัสหลบ อันเดรียส อิซัคส์สัน แล้วยิงด้วยขวาเสยใต้คานเข้าไป 3:2

นาที 86 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลุ้นทำประตูเพิ่มด้วยการยิงไกลลูกบอลหลุดเสาออกหลังไปนิดเดียว

จบเกมการลองเชิง 90 นาที โปรตุเกส ชนะ สวีเดน 3:2 รวมผลบอลสองนัด 4:2 ได้ตั๋วไปลูกบอลโลก 2014 รอบสุดท้าย



รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สวีเดน : ระบบ 4-4-2
ผู้รักษาประตู : อันเดรียส อิซัคส์สัน
กองหลัง : มิคาเอล ลุสติก, มิคาเอล อันทอนส์สัน, เพอร์ นิลส์สัน, มาร์ติน โอลส์สัน
กองกลาง : เซบาสเตียน ลาร์สสัน, ราสมุส เอล์ม, คิม คัลล์สตรอม, อเล็กซานเดอร์ คาซานิคลิช
กองหน้า : ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, โยฮัน เอลมานเดอร์

โปรตุเกส : ระบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู : รุย ปาทริซิโอ
กองหลัง : เจา เปเรยร่า, เปเป้, บรูโน่ อัลเวส, ฟาบิโอ โคเอนเตรา
กองกลาง : เจา มูตินโญ่, มิเกล เวโลโซ่, ราอูล เมยเรเลส
กองหน้า : หลุยส์ นานี่, ฮูโก้ อัลเมย์ด้า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

 

สวีเดน 2:3 โปรตุเกส ฟุตบอลโลก 2014 (รอบเพลย์ออฟนัดสอง)


 

ส่วนผลฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2014 คู่อื่น

อียิปต์  2 - 1 กานา
แอลจีเรีย 1 - 0 บูร์กินาฟาโซ่    
โรมาเนีย 1 - 1 กรีซ    
โครเอเชีย 2 - 0 ไอซ์แลนด์    
สวีเดน 2 - 3 โปรตุเกส    
ฝรั่งเศส 3 - 0 ยูเครน    

 

 

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เพ่งมองชุดทีมชาติร่างใหม่ที่ได้ไปฟุตบอลโลก

ส่องชุดทีมชาติโฉมใหม่ที่ได้ไปฟุตบอลโลก 
ส่องชุดทีมชาติร่างใหม่ที่ได้ไปฟุตบอลโลก

เสื้อเหย้าของทีมชาติ ที่ได้ไปฟุตบอลโลก 2013 ที่บราซิล โดย อาดิดาส แบรนด์ชื่อดังของโลก

 

1.ทีมชาติเยอรมัน

ชุดเหย้าของทีมชาติเยอรมัน เป็นสีขาว มีแถบดำละแวกคอถึงไหล่ ขอบแขนมีสีแดงดำ และมีสีคาดบริเวณอก ส่วนกางเกงก็เป็นสีขาวเช่นกัน มีแถบสีดำบริเวณ้านข้าง และที่ปลายขาจะมีคาดสีแดงดำ


2.ทีมชาติอาร์เจนติน่า

ชุดเหย้าของอาร์เจนติน่า ยังคงเป็นสีฟ้าขาวเช่นเดิม แต่ละแวกคอเสื้อจะมีสีดำ และแถบละแวกคอถึงอังสาจะเป็นสีดำ ปลายแขนเสื้อก็ขอบดำ ส่วนกางเกงยังเป็นสีขาว ด้านข้างกางเกงมีแถบสีดำ และบริเวณปลายขาคาดสีฟ้า


3.ทีมชาติสเปน

ชุดเหย้าของทีมชาติสเปน ยังคงสีแดงไว้เช่นเคย โดยละแวกคอถึงไหล่จะมีแถบสีทอง หน้าอกด้านซ้ายมีตราทีมชาติสเปน ส่วนทางด้านขวาจะเป็นตราฟีฟ่าที่สเปนจะมีติดบนอกเสื้อเช่นทีมเดียวเท่านั้น กางเกงสีแดงมีแถบสีทองด้านข้าง ถุงเท้าแดง เรียกได้ว่าแดงทั้งชุดกันเลยทีเดียว


4.ทีมชาติญี่ปุ่น

ชุดบ้านเรือนของญี่ปุ่นยังเป็นสีน้ำเงิน ละแวกคอถึงไหล่จะมีแถบสีขาว ส่วนปลายแขนทั้งสองข้างจะคาดสีแดง ที่น่าสนใจคือละแวกหน้าอกตรงโลโก้จะเห็นแถบบางสีจางๆมารวมกัน มีธงชาติอยู่เหนือโลโก้ ส่วนกางเกงสีเดียวกับเสื้อ ด้านข้างกางเกงมีแถบสีขาว ปลายขากางเกงมีสีแดงคาด


5.ทีมชาติโคลัมเบีย

ชุดเหย้าของทีมชาติโคลัมเบีย เป็นสีเหลือง ลายคาดย้วยสีดำ และละแวกปลายแขนมีสีขาวกับสีดำ

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ภูติผีหิวแต้ม

ปีศาจกระหายแต้ม

 

หลังจบเกมการแข่งขัน สาวก "เดอะ กันเนอร์ส" คงตกอยู่อารมณ์ "เฟ็งฝุดๆ" กับผลการประกวดประขันที่ไม่เป็นใจ ตรงข้ามกับฟอร์มโดยรวม

ศึกบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ของลูกหนังเลือดผู้ดีที่คนทั้งโลกรอคอย จบลงด้วยอัปราชัยของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในสมัยเปลี่ยนถ่าย เหนือคู่แข่ง อาร์เซน่อล ในยุคคิดใหม่ทำใหม่ ด้วยผลบอล 1-0

เห็นสกอร์จุ๋มจิ๋มแค่นี้ แต่ที่จริงไม่เล็กนะคร้าบบบ ...

"ไม่เล็ก" ในที่นี้หมายถึงเกมการประกวดประขันที่เต็มไปด้วยความมันส์ชนิด 6 สูบ 400 แรงม้า ไม่มีใครยอมใคร ประหนึ่งดังว่า ไอ้หรั่งแห่งสุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ขอย่างกลายเทียบชั้น คุณลำยอง แห่งทองเนื้อเก้า ยังไง ยังงั้น

ขออ้างอิงอิงกระแสวงการซะหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าขึ้นรถไฟไม่ทัน (ตกเทรนด์ 55) เพราะอย่างที่รู้ๆ กัน กระแสคัดค้านเต็มบ้านเต็มเมือง ไม่เว้นแม้แต่ "คัดค้านการส่ง เวลเบ็ค ลงสนาม"



สาวก "ปีศาจแดง" บางท่านอาจเฮลั่นตั้งแต่ก่อนเกม หลังจากที่ "โก๋แดน" ยังไม่หายเจ็บเข่า ไม่มีชื่อในเกมนี้ ก่อนจะได้เฮเด้งที่ 2 กับ 3 แต้มที่ได้มาชนิดวาบหวิวฉิวเฉียด

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ขุนพล "มอยส์ ยูไนเต็ด" เอาตัวรอดมาได้อย่างเฉียด คว้า 3 คะแนนสำคัญแบบทุลักทุเล ก่อนพักเบรกโปรแกรมทีมชาติในอีก 1 สัปดาห์ให้หลัง

แมตช์นี้ถือว่าแฟนลูกหนังได้เสพเกมที่มีคุณภาพอีกเกมหนึ่งเท่าที่อาจจะเคยเห็นมา ทั้งการเปิดเกมเร็วทางริมเส้นของ แมนฯ ยูฯ หรือจะการต่อบอลเท้าสู่เท้าอย่างแม่นยำ ของฝั่งอาร์เซน่อล

สุดท้ายตัวเลขบนสกอร์บอร์ดไม่เคยโกหกใคร แมนฯ ยูฯ สามารถลักความได้เปรียบจากรูปเกมที่เหนือกว่าในครึ่งแรก กระทั่งได้ประตูชัยจากอดีตคนรักของเหล่า "กูนเนอร์ส" อย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ซัดประตูใส่อดีตชู้รัก เป็นลูกที่ 3 นับตั้งแต่เลิกรากันเมื่อซัมเมอร์ปี 2012



โดยหากได้เห็นอากัปกริยาหลังโขยกประตูของ "อาร์วีพี" แล้วแทบไม่เหลือสายสัมพันธ์ให้กับอดีตทีมเก่าแม้แต่น้อย แถมฉลองบทรักอย่างดูดดื่มกับคู่หู เวย์น รูนี่ย์ อย่างถึงพริกถึงขิงไม่แคร์สายตาใครๆ

เท่ากับว่าหมดยกแรก แมนฯ ยูฯ ที่ดูสดกว่านำหน้าผู้มาเยือน 1 เม็ด พร้อมกับรูปเกมที่ขี่อยู่เล็กน้อย

เข้าใจว่า เดวิด มอยส์ คงจะติวเข้มลูกทีมมารับมือกับเกมนี้เป็นอย่างดี หลังเพิ่งคว้าชัยเพียงแค่ 2 เกมจากการเฝ้ารังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มาแล้วกว่า 5 นัด โดยเป็นการสม่ำเสมอ 2 เกม และแทบเอาปี๊บคลุมหัวเดินในเกมพ่าย เวสต์บรอมฯ 1-2

แต่พอหลังพักให้น้ำไก่เท่านั้นล่ะพ่อคุณเอ๋ย !! วิญญาณปีศาจมอยส์ ผู้สันทัดรับมากกว่ารุก เช่นเดียวกับชอบเป็นควีนมากกว่าคิง เข้าสมสู่สิงร่างหนุ่มใหญ่วัย 50 กระรัต สั่งเน้นรัดกุมเอาไว้ แล้วอาศัยอยู่จังหวะโต้งามๆ พอ

เท่ากับว่าพอใจในสกอร์ที่มี แล้วหาทางขยี้ในเวลาที่เหมาะสม



ต้นฉบับดังกล่าวที่วางไว้ถือว่าบรรลุเป้าหลังสิ้นเสียงนกหวีด แต่ก็ทำเอาใจหายใจคว่ำอยู่ไม่น้อย เมื่อเจอพายุเกมบุกชนิดกะเอาตายของลูกทีมอาร์แซน เวนเกอร์ ถึงกับแทบกระอักกันเลยทีเดียว

บวกกับแข้งความจัดเจนสูงอย่าง เนมานย่า วิดิช หัวใจยิ่งใหญ่ในแนวรับก็ดันมาเดี้ยง หลังจากเศียรไปชนเข้ากับหัวเข่าของ ดาบิด เด เคอา ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงพักครึ่ง งานหนักตกถึงมือ จอนนี่ อีแวนส์ เช่นเดียวกับ ฟิล โจนส์ ที่ต้องถอยลงมายืนเซ็นเตอร์แทน และทำงานได้อย่างดีดีที่สุด

ต้องยอมรับว่าบอลเท้าสู่เท้าของ อาร์เซน่อล เจ๋งเป้งสมคำร่ำลือ เท้าซ้ายของ เมซุต โอซิล เริ่มต้นทำงาน สยบแดนกลางของ "ผีแดง" จนอยู่หมัดและหาโอกาสเข้าทำได้เกือบทุกครั้งที่ได้บุก โดยเฉพาะลูกครอสทางริมเส้นฝั่งขวาของ บาการี่ ซาญ่า ที่ค่อนข้างเฉียบคมและชิน

ความหวาดกลัวหวั่นเกรงแว็บเข้ามาในมโนสำนึก พลางให้ระลึกถึงความโศกีช่วงท้ายเกมเมื่ออดีตกาลไม่นานมานี้ หลังโดน เซาธ์แฮมป์ตัน บุกแบ่งแต้มถึงถิ่น ตีเสมอ 1-1 แบบเจ็บๆ นาที 89



แต่ก็จนแล้วจนรอดหวิดไปหวิดมา แผงตาข่ายทั้งสองฝั่งไม่ได้ทำหน้าที่สั่นไหวล้วน 45 นาทีหลัง เท่ากับว่า แมนฯ ยูฯ เก็บอัปราชัยเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน พร้อมกับสยบสถิติไร้พ่ายเกมนอกบ้านของ "ไอ้ปืนใหญ่" ที่ทำไว้ยาวนานกว่า 8 เดือนลงได้

ทีมของ "เฮียมอยส์" เรื่อยๆ มาเรียงๆ เริ่มต้นหาจุดลงตัวได้บ้างแล้ว จากนี้ไป บรรดาแข้งอินเตอร์เนชั่นแนล จะได้เดินทางไปรับใช้ชาติบ้านเกิดทำการต่อสู้ฝึกซ้อม หรือเล่นคัดเลือกบอลโลกอยู่ก็ว่ากันไป เกือบ 2 สัปดาห์เต็มๆ ก่อนมีคิวบุก คาร์ดิฟฟ์ นู่นเลย 24 พ.ย.

3 คะแนนจากเกมนี้ ช่วยให้ แมนฯ ยูฯ กระโจนขึ้นสู่อันดับที่ 5 พร้อมทั้งบีบช่องว่างระหว่างจ่าฝูง อาร์เซน่อล เหลือแคบลงเพียงแค่ 5 คะแนน

สาวก "ปีศาจ" เฮกันทั้งบ้านทั้งเมือง แต่เชื่อสิมีอีกทีมแอบยิ้มมุมปากไปกับเรา ไม่เชื่อไปถามคุณสรยุทธดู ฮ่าๆ



-จ่าตุ๊-

(tuta_giggs11@hotmail.com)

 

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บาร์ซ่าสุวิมล! บุกยัดเซลต้าง่ายเกือก 3:0

บาร์ซ่าแจ่ม! บุกอัดเซลต้าสบายเกือก 3:0 
บาร์ซ่าแจ่ม! บุกอัดเซลต้าสบายเกือก 3:0

 

ศึกฟุตบอล ลา ลีกา สเปน 
วันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2556
 0:3 บาร์เซโลนา
สนาม : เอสตาดิโอ บาไลดอส 
ผู้ตัดสิน : ดาบิด เฟร์นานเดซ บอร์บาลัน


เปิดฉากครึ่งแรกมาแค่นาที 9 บาร์ซ่า ขึ้นนำอย่างทันที 1:0 จากสัมผัสขึ้นเกมทางฝั่งซ้าย เปโดร โรดริเกซ ปาดบอลให้ เชส ฟาเบรกาส หลุดเข้าไปไปยิงแต่ติด เซฟโยเอล แต่อัปมงคลปัดมาเข้าทาง อเล็กซิส ซานเชซ วิ่งสอดเข้ามาซ้ำเข้าไป เวลาที่เหลือมี่ประตูเกิดขึ้นจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ลงมาต่อครึ่งหลังนาที 48 บาร์ซ่า ทำประตูหนีไปเป็น 2:0 แบบโชคช่วย จากลุกที่ อเล็กซ์ ซง จ่ายเข้ากลางให้ เชส ฟาเบรกาส ได้ตวัดยิงเร็วจากนอกเบ้าหลอมหน้าเส้นเขตโทษ บอลชนคานเด้งลงมาโดนหลังของ โยเอล โรดริเกซ นายด่านเจ้าบ้านเข้าประตูไป

นาที 54 บาร์ซ่า มาได้ประตูบวกเพิ่มเป็น 3:0 จากสัมผัสที่ เมสซี่ พาบอลมาจากกลางสนาม ก่อนหางไหลออกซ้ายให้ เชส ฟาเบรกาส ได้หลุดเข้าไปซัดมุมแคบลูกบอลเสียบเสาแรกตุงตาข่าย จบเกม บาร์เซโลน่า บุกมาตระหน่ำเอาชนะ เซลต้า บีโก้ 3:0 รั้งจ่าฝูง โดยทำแต้มหนี แอตเลติโก้ มาดริด 4 แต้ม

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม


เซลต้า บีโก้ : (4-3-3)
ผู้รักษาประตู : โยเอล โรดริเกซ
กองหลัง : อูโก้ มาโย่, กุสตาโว่ กาบรัล, อันเดรว ฟอนตาส, จอน เอาร์เตเน็ตเช่ (โตนี่ น.55)
กองกลาง : อเล็กซ์ โลเปซ, บอร์ฆ่า โอบินญ่า, ราฟินญ่า อันคานทาร่า
กองหน้า : เอากุสโต้ เฟร์นานเดซ (ซานติ มิน่า น.58), ชาร์ลส์,โนลีโต้ (ฟาเบียน โอเรยาน่า น.68)

บาร์เซโลนา (4-3-3):
ผู้รักษาประตู : บิกตอร์ บัลเดส
กองหลัง : ดาเนีย อัลเวส, มาร์ก บาตร้า, การ์เลส ปูโยล, อาเดรียโน่ กอเรอา(มาร์ติน มอนโตย่า น.31)
กองกลาง : เซร์คิโอ้ บุสเก็ตส์, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส(อันเดรส อิเนียสต้า น.65)
กองหน้า : เปโดร โรดริเกซ, อเล็กซิส ซานเชซ(คริสเตียน เตโญ่ น.83), ลีโอเนล เมสซี่

เซลต้า บีโก้ 0:3 บาร์เซโลนา


ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556

มายกชุด!! ยีพิชิตขาดนั่งนายกยุค4 ลั่นเสร็จชักชวนกร๊องร่วมงาน

มายกชุด!! ยีชนะขาดนั่งนายกสมัย4 ลั่นพร้อมเชิญกร๊องร่วมงาน 
มายกชุด!! ยีชนะขาดนั่งนายกสมัย4 ลั่นพร้อมเชิญกร๊องร่วมงาน

วิเคราะห์บอล : บังยี วรวีร์ มะกูดี นั่งเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอลอีกสมัย หลังชนะเลือกตั้งวิรัช ชาญพานิชย์ ขาดลอย 42-28 ด้านนายวิรัช หลังพ่ายแพ้ก็ตั้งโต๊ะแจกแจงข่าวไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ตระเตรียมนำเรื่องฟ้องศาลต่อไป ส่วนบังยี ลั่นพร้อมชันสูตรตัวเองอีกครั้ง พร้อมเชิญวิรัชร่วมงาน



 

การรวมกันใหญ่พิเศษเพื่อเลือกตั้งกรรมการบริหารสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่ห้องจตุรทิศ แกรนด์บอลรูม โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน ในวันพฤหัสบดีที่ 17 ต.ค. เมื่อเวลา 15.45 น.ที่ผ่านมา โดยล่าช้ากว่ากำหนดการเดิมที่ตั้งไว้ในเวลา 14.00 น.เนื่องจากมีตัวปัญหาเรื่องสิทธิ์ซ้ำซ้อนของสโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์ลงเลือกตั้ง แต่สุดท้ายก็สามารถเคลียกันได้ และมีจำนวนผู้ลงคะแนนเสียงครบทั้ง 72 สโมสร ในส่วนของผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯ มี 2 ท่านด้วยกันคือ นายวรวีร์ มะกูดี และ นายวิรัช ชาญพานิชย์

 

หลังจากที่ทั้ง 72 สโมสรลงทะเบียนเพื่อแสดงตัวเรียบร้อยแล้ว เวลา 15.00 น. คณะกรรมการจัดการเลือกตั้งโดยมี พล.ต.ต.พิสุทธิ์ พุ่มพิเชษฐ์ เป็นประธานก็ได้เปิดห้องประชุมให้ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนทยอยเข้าห้องประชุม โดยไม่ยอมให้ให้สื่อมวลชนเข้าไปในห้องประชุมด้วย ก่อนที่เวลา 15.45 น.จะเริ่มต้นการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการซึ่งทาง กกต.ก็อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปเก็บภาพการเลือกตั้งได้ 5 นาที โดยการเลือกตั้งเริ่มจากการเลือกนายกสมาคมฯ ซึ่งคนแรกที่ทำการลงคะแนนและหย่อนบัตรเลือกตั้งคือนายวรวีร์ มะกูดี ในฐานะตัวแทนจากสโมสรบีอีซี เทโร ศาสน 

 

สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้จะแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน โดยหลังจากที่ 72 สโมสรลงคะแนนเลือกนายกสมาคมเรียบร้อยแล้ว ก็จะเป็นการเลือกอุปนายกสมาคมฯ อีก 5 ตำแหน่ง และปิดท้ายที่การลงคะแนนเลือกสภากรรมการอีก 13 ตำแหน่ง โดยทั้ง 3 ขั้นตอนใช้เวลาการเลือกตั้งทั้งสิ้นประมาณ 2 ชั่วโมง เสร็จสิ้นในเวลากะ 17.45 น. หลังจากนั้นเวลา 17.50 น.เป็นการนับคะแนนของสถานะนายกสมาคมฟุตบอลฯ

 

ในช่วงของการนับคะแนนนายกสมาคมฯ กกต.อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปเก็บภาพได้กะ 10 นาที โดยการนับคะแนนช่วงแรกเป็นทาง นายวิรัช ที่มีคะแนนนำ แต่ผ่านไปสักพัก คะแนนของนายวรวีร์ก็ตีตื่นขึ้นมาและไล่มาเสมอกันอยู่ที่ประมาณ 11-11 หลังจากนั้นคะแนนของ "บังยี" ก็เริ่มหนีห่าง ก่อนที่จะแตะหลัก 37 ก่อน ซึ่งถือเป็นคะแนนที่การันตีว่าเป็นผู้มีชัย โดยในระหว่างนั้นทางด้าน นายวิรัช และทีมงานก็เดินออกมาจากห้องรวมกันด้วยอาการไม่พอใจ ก่อนที่สุดท้าย "บังยี" จะเป็นผู้มีชัยไปด้วยคะแนน 42-28 โดยมีบัตรเสีย 1 ใบ และไม่ลงคะแนนอีกหนึ่งใบ

 

หลังจากที่นายวิรัช และทีมงานออกจากห้องรวมกัน ก็ได้ตั้งโต๊ะแจกแจงข่าวถึงผลการเลือกตั้งว่า "ตอนนี้แม้คะแนนจะออกมาแล้ว แต่ผมจะขอรอการรับประกันผลการเลือกตั้งจาก กกต.ก่อน เพราะการเลือกตั้งในวันนี้ผมมองว่ามีความไม่โปร่งใส โดยเฉพาะการสวมสิทธิ์มาเลือกตั้งของ 7 สโมสรในดิวิชั่น 2 ซึ่งจริงๆ แล้วทั้ง 7 เสียงเป็นฝ่ายของผมถ้าได้มาคะแนนจะเท่ากัน 35-35 หลังจากนี้ทางผมก็คงจะขอคำแนะนำกับทีมงานว่าจะฟ้องศาลปกครองให้ยกเลิกการเลือกตั้งครั้งนี้ได้หรือไม่ อีกทั้งยังจะนำเรื่องดังกล่าวร้องเรียนกับ กกต.ด้วย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้แค่ไหนอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ขี้พ่ายแพ้ชวนตีแต่ผมต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความวิมลและยุติธรรม"

 


หลังจากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการนับคะแนนในตำแหน่งอุปนายกสมาคมฟุตบอล 5 คน ต่อด้วยการกภากรรมการอีก 13 คน ซึ่งการนับคะแนนทั้งหมดเสร็จสิ้นในเวลา 19.20 น. โดยผลปรากฏว่าทีมงานของนายวรวีร์ นั้นชนะการเลือกตั้งแบบขาดลอยยกชุด ซึ่งคณะกรรมการสมาคมฯ ที่ได้รับการเลือกตั้งทั้งหมด 19 คน มีดังนี้ 

 

นายกสมาคมฯ นายวรวีร์ มะกูดี 

 

อุปนายกสมาคมฯ 5 คน ประกอบไปด้วย 1.ดร.อุดรพันธ์ จันทรวิโรจน์ ,2.ดร.ภิญโญ นิโรจน์,3.พล.อ.ชินเสณทองโกมล,4.อากาศตรี เจษฏา วิจารณ์,5.นายวิรัย ล้ำสุทธิ

 

และสภากรรมการอีก 13 คน ประกอบไปด้วย 1.ดร.องอาจ ก่อสินค้า, 2.พลตำรวจโท พิสัณห์ จุลดิลก,3.พล.ท.ม.ล. สุปรีดี ประวิตร ,4.พลเรือตรี อานนท์ คาระสวัสดิ์,5. ดร.กษม ชนะวงศ์, 6.ดร.ภาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์,7 .นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ,8.นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์,9.นายธัญญา โพธิ์วิจิตร ,10.นายมิตติ ติยะไพรัช,11 .นายศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ,12.นายภูษิต พิศาลกิจสกุล ,13.นางนวลพรรณ ล่ำซำ 

 

หลังเสร็จสิ้นการนับคะแนนดูดีแล้ว "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า "ผมพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในสถานะนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก่อนอื่นต้องรู้สึกขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ไว้ใจผม รวมถึงคะแนนเสียงที่ไม่ได้เลือกผมด้วย ผมต้องขอขอบคุณ คุณวิรัช ที่เสนอตัวมาแข่งขันสู้กันแบบนักกีฬา สำหรับผมแล้วพร้อมที่จะเชิญคุณวิรัช เข้ามาช่วยกันทำงานในสุงสิงฟุตบอลฯ เพื่อพัฒนาฟุตบอลไทยไปด้วยกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณวิรัช ที่จะพร้อมมาทำงานกับผมหรือไม่"

 

ว่าที่นายกสมาคมฟุตบอลกล่าวต่อว่า "หลังจากนี้ผมพร้อมเดินหน้าทำตามนโยบายที่ได้บอกไว้อย่างเต็มที่ โดยเป้าหมายแรกคือการทวงแชมป์ซีเกมส์กลับมาให้ได้ หลังจากนั้นก็จะปฏิรูปการบริหารสมาคมฯ ให้เป็นที่ยอมรับ"

 

นอกจากนี้ "บังยี" ได้ตอบข้อสักถามของสื่อมวลชนเกี่ยวกับเรื่องผลการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยบอกว่า "ผมคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่โปร่งใส เป็นไปตามที่ฟีฟ่ากำหนด อีกทั้งมีตัวแทนจาก กกท. ฟีฟ่า และ เอเอฟซี มาร่วมสังเกตุการณ์ด้วย ส่วนตัวแล้วผมไม่กังวลเรื่องที่ทางฝั่งคุณวิรัช จะฟ้องต่อศาลให้โมฆะ การเลือกตั้ง และผมก็คิดว่าผลคะแนนที่ออกมาค่อนข้างขาดเป็นการฝืนได้ว่าการเลือกตั้งนั้นบางแน่นอน"

 

สำหรับคะแนนการเลือกตั้งทั้งหมด มีดังนี้

 



คะแนนการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ

 


คะแนนอุปนายกสมาคมฯ ฝั่งวิรัช ชาญพานิชย์


คะแนนอุปนายกสมาคมฯ ฝั่งนายวรวีร์ มะกูดี


คะแนนสภากรรมการฝั่งนายวิรัช ชาญพานิชย์


คะแนนสภากรรมการฝั่งนายวรวีร์ มะกูดี



ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

งูพลิกนรก!ฉกฟิออฯดิ้น 2-1 กระถดรั้งรองฝูงกัลโช่

งูพลิกนรก!ฉกฟิออฯดิ้น2-1ขยับรั้งรองฝูงกัลโช่+คลิป 
งูพลิกนรก!ฉกฟิออฯดิ้น2-1ขยับรั้งรองฝูงกัลโช่+คลิป

วิเคราะห์บอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2556

สนาม : จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า

ผู้ตัดสิน : เปาโล วาเลรี่ 

 2-1 ฟิออเรนติน่า

 

 

 

 

ริเริ่มเกมมาได้แค่นาทีเดียว อินเตอร์ เปิดเกมลุยโอภาก่อนทันที ยูโตะ นางาโตโมะ ขึ้นเกมรุกทางฝั่งซ้าย ก่อนลากตัดเข้ามายิงด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเข้าเสาแรก แต่ เนโต้ พุ่งรับไว้ได้

น.11 เกมยังคู่คี่สูสีกันอยู่ในช่วงต้น ฝั่ง ฟิออ ได้โอกาสลุ้นครั้งแรก จูเซ็ปเป้ รอสซี่ รับบอลต่อจาก ฆัวกิน ก่อนกระชากเข้าเขตโทษ แล้วกดด้วยขวามุมแคบ ฮันดาโนวิช ต้องออกแรงปัด

น.14 เจ้าถิ่นได้จังหวะสวนกลับเร็ว จากจังหวะที่ ฮวน เฮซุส ตัดบอลได้จากแดนกลาง ก่อนพาบอลขึ้นหน้า แล้วถ่ายออกฝั่งซ้ายให้ ซาฟีร์ เทแดร์ ตัดสินใจยิงมุมแคบ บอลเข้าข้างตาข่าย ทั้งที่มีเพื่อนร่วมทีมยืนรอบอลอยู่อีกฝั่งถึง 2 คน

น.21 เกมสวนกลับเร็วของ ฟิออ ทำได้ค่อนข้างน่ากลัว ได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะที่ รอสซี่ จ่ายบอลทะลุช่องขึ้นทางขวาให้กับ ฆัวกิน แตะบอลหลุดเข้าเขตโทษ ก่อนกดด้วยขวาเต็มข้อ ติดเซฟ ฮันดาโนวิช ออกหลัง

น.27 ฟิออ ที่เตรียมตัวมาดีในเกมนี้ ได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง จากเกมริมเส้นฝั่งขวาของ ฆัวกิน ที่กระชากเข้าเขตโทามายิงมุมแคบ บอลถากเสาไกลออกไปนิดเดียว

น.36 ทีมเยือนจำเป็นต้องเปลี่ยนผู้เล่นกะทันหัน เมื่อ มานูเอล ปาสกวาล แบ็กซ้ายกัปตันทีมได้รับบาดเจ็บต้นขาเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง มาร์กอส อลอนโซ่ ลงสนามแทน

หมดครึ่งแรก ยังเสมอกันอยู่ที่ผลบอล 0-0

ครึ่งหลัง ยังไม่มีทีมใดเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น เริ่มมาถึงนาที 50 อินเตอร์ ได้โอกาสลุ้นก่อน จากจังหวะที่ เฟรดี้ กัวริน ตั้งป้อมซัดด้วยขวาเต็มข้อหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเกือบเสียบเสา เนโต้ ลอยตัวปัอทิ้งออกหลัง

น.57 อินเตอร์ ที่ยังต่อบอลกันได้ไม่ถนัดได้จังหวะหวาดเสียว โรดริโก้ ปาลาซิโอ ลากบอลตัดจากริมเส้นฝั่งซ้ายมากดด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลโด่งข้ามคานออกไป

น.60 กองเชียร์เจ้าเขตช็อคทั้งสนาม เมื่อ ฟิออ มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ฮวน เฮซุส ไปเหนี่ยว ฆัวกิน ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่ลังเล ให้ใบเหลือง เฮซุส พร้อมมอบจุดโทษให้ทีมเยือน ก่อนที่ จูเซ็ปเป้ รอสซี่ จะยิงเสียบมุมเข้าไป ให้ ฟิออ ออกนำ 1-0

น.72 ขุนพล "งูใหญ่" พยายามเดินเกมบุกหวังทวงประตู กระทั่งประสบผล จากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย มาเตโอ โควาซิช เปิดเข้าเขตโทษ แนวรับทีมเยือนเคลียร์กันไม่ขาด ก่อนที่ อูโก้ คัมปันญาโร่ จะโหม่งชงให้ กัมบิอัสโซ่ พักอกหนึ่งจังหวะแล้วกระโดดจักรยานอากาศด้วยซ้าย บอลพุ่งเสียบเสาแรกอย่างสวยงาม ให้ อินเตอร์ ตีเสมอ 1-1

น.80 เกมของ ฟิออ มาคึกคักอีกครั้ง เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ บอร์ฆา บาเลโร่ ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายเรียดข้ามมาอีกฝั่งให้ โจซิป อิลิซิช กองหน้าตัวสำรอง ได้กดด้วยซ้ายเน้นๆ บอลพุ่งไปตรงตัว ฮันดาโนวิช ทุบทิ้งออกไปได้

น.83 เสียงเฮลั่น จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า อีกครั้ง เมื่อ อินเตอร์ มาได้ประตูพลิกแซงขึ้นนไปด้วยผลบอล 2-1 จากจังหวะที่ ริคกี้ อัลวาเรซ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ บอลเลยไปถึง โชนาธาน ที่เสาสองดูดลูกบอลลงหนึ่งจังหวะ ก่อนยิงยัดด้วยขวา บอลพุ่งแสกหน้า เนโต้ เข้าไปอย่างสุดสวย

เวลาที่เหลือ ไม่มีทีมใดทำประตูได้ จบเกม 90 นาที อินเตอร์ เฉือนเอาชนะ ฟิออเรนติน่า ไปสุดมัน 2-1 เก็บ 3 แต้มเต็ม ขยับขึ้นมารั้งรองจ่าฝูง มีอยู่ 13 คะแนน ตามหลัง โรม่า อยู่ 2 แต้ม ส่วน ฟิออ ยังรั้งอันดับ 5 มี 10 คะแนนเท่าเดิม

รายชื่อผู้เล่น อินเตอร์ มิลาน

ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช - โชนาธาน (น.85 อัลวาโร่ เปไรร่า น.85), อันเดรีย ราน็อคเคีย, ฮวน เฮซุส, ยูโตะ นางาโตโมะ - อูโก้ คัมปันญาโร่, เฟรดี้ กัวริน (เมาโร อิคาร์ดี้ น.67), เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ - ริคาร์โด้ อัลวาเรซ, ซาฟีร์ เทแดร์ (มาเตโอ โควาซิช น.60), โรดริโก้ ปาลาซิโอ

รายชื่อผู้เล่น ฟิออเรนติน่า

เนโต้ - เนนาด โทโมวิช, กอนซาโล่ โรดริเกซ, สเตฟาน ซาวิช, มานูเอล ปาสกวาล (มาร์กอส อลอนโซ่ น.36) - มัสซิโม่ อัมโบรซินี่, บอร์ฆา บาเลโร่ - ฆัวกิน ซานเชซ, อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ (มาเธียส เวซิโน่ น. 78), มาติอัส แฟร์นานเดซ - จูเซ็ปเป้ รอสซี่ (โจซิป อิลิซิช น.69)

 

คลิป : อินเตอร์ มิลาน 2-1 ฟิออเรนติน่า


 

วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556

ปืนแสดงตนผลประกอบการฟันกำไร 335 ล้านบาท

ปืนเผยผลประกอบการฟันกำไร335ล้านบาท

 

วิเคราะห์บอล : ทุนนิยม! ''ปืนใหญ่'' แบผลประกอบการฤดูกาลที่แล้วต่อสาธารณะชน ปรากฎว่า ฟันกำไรเข้ากระเป๋า 335 ล้านบาท

อาร์เซน่อล ที่พักผ่อนหัวหน้าฝูงแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดปริปากผลประกอบการของที่พักผ่อนในฤดูกาล 2012-2013 ที่ผ่านมา โดยพลพรรค "เดอะ กันเนอร์ส" ยังคงมีสถานะการเงินที่ยอดเยี่ยม

 

ซึ่งปีที่ผ่านมาฟันกำไรเข้ากระเป๋าได้ 6.7 ล้านปอนด์ (335 ล้านบาท) โดยจากสถิติชี้ให้เห็นว่า "ปืนใหญ่" ได้เงินจากการขายนักเตะออกจากทีมไปถึง 47 ล้านปอนด์ (2,350 ล้านบาท) เลยทีเดียว

บอร์ดบริหารของ อาร์เซน่อล เปิดเผยถึงตัวเลขผลประกอบการเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดย อาร์แซน เวนเกอร์ ใช้งบประมาณกับผู้เล่นหน้าใหม่ไปถึง 58.7 ล้านปอนด์ (2,935 ล้านบาท) ซึ่งใช้เป็นค่าตัวของ เมซุต โอซิล จำนวน 42.5 ล้านปอนด์ (2,125 ล้านบาท) พร้อมทั้งยังลงทุนไปกับการขยับเพดานค่าเหนื่อยของผู้เล่นสำคัญในทีมไปถึง 41.3 ล้านปอนด์ (2,065 ล้านบาท) นอกจากนี้ อาร์เซน่อล ยังมีรายรับจากกิจกรรมทางการตลาดสูงถึง 242.8 ล้านปอนด์ (12,140 ล้านบาท)

ด้าน เซอร์ ชิพ เคสวิก บอร์ดบริหารของ "เดอะ กันเนอร์ส" กล่าวถึงผลประกอบการของที่พักผ่อนในครั้งนี้ว่า "พวกเราต้องทำให้ที่พักผ่อนมากขึ้นในเชิงพาณิชย์สำหรับคราวที่ดีที่สุดของที่พักผ่อนที่จะประสบความสำเร็จ และพวกเราต้องทำในแนวทางที่ยังคงดำรงคุณลักษณะที่แท้จริงของสโมสร และจะทำให้เรามั่นใจและรักษาความยั่งยืนในระยะยาวของสโมสรแห่งนี้"

"พวกเราพบกับการชิงชัยระหว่างทีมชั้นยอดของพรีเมียร์ลีกและทีมมหาคนรวยของยุโรป ซึ่งเป็นงานที่หนัก แม้ว่าจะมีการเริ่มนำกฎไฟแนนเชียลแฟร์เพลย์มาใช้ รวมถึงนโยบายในการกำหนดราคาจะมีความเข้มข้น แต่ค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเหนื่อยนักเตะก็ยังสูงขึ้นๆ ดังนั้น มันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเราที่มีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งเราได้มุมานะสร้างในหลายๆ ปีที่ผ่านมา และจะทำให้เราก้าวต่อไปและสามารถแข่งขันได้ในระดับสูงสุด"

 

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่