วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556

ก็คนมันรวย คำเดียวสั้นๆได้ใจความ

ก็คนมันรวย 
ก็คนมันรวย

ฟุตบอล : คนรวยทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด จะช้อปปิ้ง จะกินข้าว หรือจะตระเวนเที่ยว มีเงินเสียอย่าง ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น

เพราะฉะนั้นกับ เชลซี ต้นตำรับทีมลูกหนังมหาเศรษฐี จะทำอะไรก็คงจะเข้าทำนองไม่ขี้ริ้วด้วยเหมือนกัน แม้ล่าสุดจะเพิ่งโดนด่าเรื่องสอยดาวรุ่งจากทั่วสารทิศมาดองเค็มเล่นๆ ก็ตาม

"ทำแบบนี้ถือว่าฆ่าเด็กทางอ้อมนะจ้ะ" ผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการพากันออกมาส่งเสียงต่อต้านนโยบาย "เลี้ยงต้อย" ของ "เสี่ยหมี" โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีม "สิงห์บลูส์"

แทนที่จะปล่อยให้เด็กได้มีโอกาสฝึกปรือฝีเท้าไปตามวัยกับต้นสังกัด แต่ เชลซี กลับเลือกเด็ดผลอ่อนออกจากต้นโดยไม่รอให้สุกงอม

กาแอล กากูต้า, โอริโอล โรเมอู รวมไปถึง ลูคัส เปียซอน อีกรายก็น่าจะได้ด้วยเหมือนกัน ชื่อเหล่านี้เป็นตัวอย่างให้เห็นเด่นว่า "เด็ดแล้วดับ" (แม้จะเหลือเวลาให้พิสูจน์ตัวเองได้อีกยาวๆ ก็เถอะ)

แต่ใครจะทำไม "เสี่ยหมี" ไม่สนอยู่แล้ว เฟร์นานโด ตอร์เรส 50 ล้านปอนด์ ยังไม่สะดุ้ง ประสาอะไรกับเงินจิ๊บจ๊อยที่ออกทุนไปกับเด็กพวกนี้

ฤดูกาล 2013/14 เชลซี ปล่อยยืมนักเตะผลบอลดีไปเบ็ดเสร็จ 2 โหล หรือ 24 คน นับรวมหมดไม่ว่าจะชุดใหญ่ ชุดเล็ก ชุดเด็กอนุบาล

24 คน!! ตัวเลขขนาดนี้สร้างเป็นทีมได้ 1 ทีมสบายๆ และที่สำคัญคือ "เป็นนักเตะจากทีมชุดใหญ่ถึง 9 คน"

กากูต้า (วิเทสส์), โรเมอู (บาเลนเซีย), เปียซอน (วิเทสส์), วิคเตอร์ โมเสส (ลิเวอร์พูล), โรเมลู ลูกากู (เอฟเวอร์ตัน), มาร์โก มาริน (เซบีย่า), พาทริค ฟาน อานโฮลท์ (วิเทสส์), ธีโบต์ กูร์กตัวส์ (แอตเลติโก มาดริด), คริสเตียน อัตซู (วิเทสส์)


ธีโบต์ กูร์กตัวส์ ปล่อยให้ ตราหมี ยืมจนแฟนๆ เรียกร้องให้ซื้อขาด แต่เชลซีรวยซะอย่างพูดกลับไปเบาๆ ว่า "ไม่ขายนะครับ"

ดูจากรายชื่อแล้วหลายๆ คน "ระดับทีมชาติ" ด้วยซ้ำ แต่กลับไม่มีพื้นที่ในสโมสร

ไมเคิ่ล เอเมนาโล่ ผอ.กีฬาเชลซี ตอบโต้เสียงติชมถึงนโยบาย "ดึงมาดอง" ว่าเรื่องทั้งหมดมันก็มาจากกฎ "ไฟแนนเชี่ยล แฟร์เพลย์" หรือกฎควบคุมการเงินของทางฝั่ง ยูฟ่า นั่นล่ะ

จะให้ทุ่มเงินหลายสิบล้านปอนด์ไปกับซูเปอร์สตาร์ระดับโลกเพียงคนเดียว สู้แจกเงินไม่กี่ล้านกว้านซื้อดาวรุ่งที่พอมีแววมาชุบเลี้ยงทีเดียวเป็นเข่งๆ ยังน่าสนับสนุนกว่ากันเยอะ

บางเสียงว่าตามโต๊ะน้ำชากระฉอกสวนกลับมาว่า "เฮ้ย อาร์เซน่อล ก็เน้นสอยเด็กเหมือนกันนะ ขืนทีมใหญ่ทำแบบนี้กันหมดก็ได้ล่มจมกันพอดี"

เชลซี ไม่ใช่ อาร์เซน่อล และอาร์เซน่อล ก็ไม่ใช่ เชลซี


เควิน เด บรอยน์ ไปเก็บเว่ลกลับมาถูกใจ เฮียมู เฮียเลยให้โอกาสแจ้งเกิด (ถ้าทำได้นะ)

ฝั่ง "ปืนโต" เสียตัวหลักออกไปทุกปี ส่วนเด็กที่ดึงเข้ามาก็ยังโตไม่ทัน ขณะที่ เชลซี สามารถปกป้องรักษาตัวหลักเอาไว้ได้ แม้เด็กๆ จะโตไม่ทันแต่ก็ไม่ได้รีบร้อนจะใช้งาน เพราะพวกเขาซื้อนักเตะสำเร็จพร้อมใช้งานมาเสริมทีมบ้างเหมือนกัน

เพราะฉะนั้นในทุกๆ ปี เชลซี จึงมีสนับสนุนกับเขาตลอดแม้จะกว้านซื้อเด็กมาค้ำทีมเพียบแปล้ไม่แพ้ทางฝั่ง อาร์เซน่อล เลยก็ตาม

ไม่เท่านั้น แผนการเลี้ยงต้อยของพวกเขายังพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่ได้ทำให้ทั้งทีมและตัวนักเตะพังยับเยินอย่างที่หลายคนคิดกัน

เควิน เด บรอยน์ กลับมาเป็นตัวหลักให้ทีมหลังไปชุบตัวกับ แวร์เดอร์ เบรเมน, ธีโบต์ กูร์กตัวส์ ขึ้นชั้นผู้รักษาประตูอนาคตไกลไปแล้วกับ แอตเลติโก มาดริด ทั้งที่ไม่มีตำแหน่งในรั้ว เดอะ บริดจ์ ด้วยซ้ำ

และเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ใช่แค่ เชลซี ที่ทำแบบนี้ แต่ทำกันแทบจะทุกทีมชั้นนำในยุโรปไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด,บาร์เซโลน่าบาเยิร์น มิวนิค, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือแม้กระทั่ง ปอร์โต้

เข้าทำนองเรื่องแบบนี้ "ใครๆ เขาก็ทำกัน"

ส่วนทั้งหมดทีมเล็กก็คงได้แต่นั่งมองตาปริบกันต่อไป ในเมื่อกฎไฟแนนเชี่ยล แฟร์เพลย์ ที่ออกมานั้นมันไม่ได้ช่วยเหลือพวกเขาอะไรเท่าไหร่ แถมยังเป็นการเร่งให้โดนกุมเหงเสียด้วยซ้ำ

แต่ถามจริง หากคุณรวยและมีโอกาสแบบนั้น จะทำบ้างไหม?

จะอย่างไรคำตอบในใจเจ้าของสโมสรแทบจะทุกทีมในยุคลูกหนังทุนนิยมคงหนีไม่พ้น... ก็คนมันรวยช่วยไม่ได้


เรื่องโดย "นนท์"

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น